ผักชี วิธีการปลูกผักชีผักชี สร้างรายได้ ให้ได้ผลผลิต เยอะๆ
ก่อน ปลูกผักชี มารู้จักผักคู่ครัวไทยประเภทนี้ให้มากยิ่งขึ้นกันอีกสักหน่อย
เชื่อว่าหลายคนอาจมีความคิดอยาก ปลูกผักชี เพื่อกินเอง เพราะผักชนิดนี้เป็นผักที่ขาดไม่ได้เลยในอาหารไทย แม้จะไม่ได้เป็น “พระเอก” บนอาหารจานหลัก ไม่มีการนำผักชีเข้ามาปรุงอาหารเป็นเมนูเฉพาะของตัวมันเอง แต่กลับกันทุกเมนูอาหารกว่า 70% ของประเทศไทย ต่างก็ต้องมีผักชนิดนี้ประกอบอยู่ด้วย ดั่งสำนวนไทยที่ว่า “ผักชีโรยหน้า” ด้วยลักษณะที่เป็นใบหยักดูสวยงาม พร้อมกลิ่นหอมอันเฉพาะตัว ทำให้เป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่ขาดไปไม่ได้โดยเด็ดขาดในอาหารทั้งไทยและเทศ แต่คุณรู้หรือไม่ ? ผักชียังมีเรื่องลับ ๆ อีกมากมาย บทความนี้เราจะมาตีแผ่นเรื่องราวเหล่านั้นให้คุณได้รู้ ถ้าพร้อมแล้วไปชมกันเลย
เกร็ดความรู้ก่อน ปลูกผักชี รู้ลึกถึงผักประเภทนี้ให้มากขึ้น
เนื่องจากเทรนด์การปลูกผักสวนครัวเอาไว้ทานเองที่กำลังมาแรงในตอนนี้ การ ปลูกผักชี ก็เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่ได้รับความนิยมสูงเป็นอันดับต้น ๆ เนื่องจากการปลูกนั้นทำได้ง่าย สามารถใช้พื้นที่ริมระเบียงก็สามารถปลูกพืชชนิดนี้เอาไว้ทานได้แล้ว โดยก่อนจะไปถึงขั้นตอนการปลูก เราอยากให้คุณรู้จักกับผักชีให้มากขึ้นอีกสักนิด เพื่อทำให้คุณได้ตกหลุมรักผักประเภทนี้มากขึ้นอีกสักนิด โดยผักชีนั้นมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า (Coriandrum sativum) เป็นพืชในวงศ์ล้มลุก ถิ่นกำเนิดเดิมนั้นอยู่ในภูมิภาคยุโรปตอนใต้ เป็นพืชที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน
ถูกนำมาประกอบอาหารต่าง ๆ ในเกือบทุกวัฒนธรรม ด้วยสรรพคุณทางยา รวมไปถึงกลิ่นหอมเฉพาะตัว ช่วยยกระดับอาหารที่มีรสชาติออกเปรี้ยว ให้มีรสชาติกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น ทุกส่วนของผักชีสามารถนำไปประกอบอาหารได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นลำต้นกับใบ ก็ใช้โรยในอาหารเพื่อเพิ่มกลิ่นหอม หรือทานสด ๆ เป็นผักแกล้ม รากก็ใช้เป็นเครื่องหอม เป็นหนึ่งในส่วนประกอบสำคัญของ “สามเกลือ” และส่วนเมล็ดก็มักนำไปใช้ในการปรุงน้ำซุป ด้วยประโยชน์ที่รับประทานได้ตั้งแต่ใบยันเมล็ด ทำให้เกิดความนิยม ปลูกผักชีกินเอง อย่างแพร่หลายในปัจจุบันนั่นเอง
ทำไมเกษตรกรชาวไทยถึงนิยม ปลูกผักชี ?
แม้ว่าบางแหล่งข้อมูลจะบอกว่า การ ปลูกผักชี ควรปลูกเฉพาะช่วงปลายฝนเท่านั้น แต่ในไทยมักเกิดเหตุอุทกภัย ทำให้เวลามีน้ำท่วมเมื่อไหร่ ราคาของผักชีก็จะพุ่งสูงขึ้นไปเท่านั้น มีบางช่วงเวลาผักชีมีราคาสูงกว่าเดิมถึง 3 เท่าเลยทีเดียว แต่ที่จริงแล้วปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดเลย หากคุณปลูกผักชีเอาไว้ทานเอง เนื่องจากการนำไปประยุกต์ใช้กับอาหารนั้นทำได้หลากหลาย เป็นอีกหนึ่งพืชสวนครัวที่ใช้ประโยชน์ได้จากทุกส่วนของพืช
แถมยังสามารถ ปลูกผักชีจากเมล็ด ได้ง่าย ๆ หาซื้อได้จากร้านขายอุปกรณ์การเกษตรใกล้บ้านคุณ หรือจะปลูกด้วยเทคนิคพิเศษต่าง ๆ ก็ได้เช่นเดียวกัน หากถามว่าทำไมผักชนิดนี้ถึงเป็นที่นิยม คำตอบก็คือ ด้วยรสชาติและกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ ทำให้ไม่สามารถนำพืชผักชนิดไหนมาใช้แทนในการประกอบอาหารได้นั่นเอง
มารู้จักกับอีก 2 ผักชีไทย ที่เรามักพบเห็นได้ในอาหารประเภทต่าง ๆ
เนื่องจากประเทศไทยเป็นเมืองที่เหมาะสำหรับ วิธีปลูกผักชี ในรูปแบบต่าง ๆ ทำให้ผักชีไทยไม่ได้เป็นเพียง 1 ชนิดของผักไทยที่มีอยู่ในบ้านเรา นอกจากผักชีที่เรารู้จักแล้ว ก็ยังมีผักชีรูปแบบอื่น ๆ อีกด้วย ถึงแม้ว่าชื่อจะคล้ายกัน แต่ในลักษณะทางกายภาพนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ไปจนถึงในส่วนของรสชาติเองก็แต่ต่างกันจนนำไปปรุงอาหารคนละประเภทกันเลยทีเดียว ถ้าคุณพร้อมแล้ว เราจะนำ 2 ผักชี ซึ่งเป็นญาติสนิทกับผักชีที่เราชื่นชอบมาฝาก จะมีเนื้อหาไหนน่าสนใจกันบ้าง ไปชมกันเลย!
1.ผักชีฝรั่ง
ผักชีฝรั่ง หรือ “ผักชีใบเลื่อย” มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Eryngium foetidum อยู่ในวงศ์ผักชี เป็นผักที่มีรสชาติค่อนข้างเผ็ดร้อน มักนำไปใช้กับอาหารไทยที่มีรสชาติจัดอย่างเช่น ลาบ ต้มยำ คั่วกลิ้ง แต่ที่พบเห็นได้บ่อยที่สุดจะเป็นในส่วนของอาหารอีสาน เนื่องจากเป็นหัวใจสำคัญของเมนูอีสานหลาย ๆ อย่าง เช่น ต้มแซ่บ ลาบ ก้อย น้ำตก แจ่ว เป็นต้น เป็นพืชที่มีสรรพคุณทางยาหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขปัญหาปัสสาวะติดขัด แก้ปวดท้อง มีสารต่อต้านสารอนุมูลอิสระ ฯลฯ วิธีการ การปลูกผักชีฝรั่ง ค่อนข้างง่าย เนื่องจากเป็นพืชที่ปรับตัวต่อสภาพอากาศได้ดี ปลูกในดินโดยตรงได้เลย ไม่จำเป็นต้องดูแลมากนัก (ในกรณีที่ปลูกไว้ทานเอง)
2.ผักชีลาว
ผักชีลาว มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Anethum graveolens แม้ว่าจะมีชื่อติดพ่วงมาด้วยคำว่า “ลาว” แต่ที่จริงแล้วไม่ได้เป็นผักพื้นเมืองของทางลาวแต่อย่างใด ต้นกำเนิดมาจากโซนเดียวกับผักชีทั่ว ๆ ไป นั่นก็คือตอนใต้ของโซนยุโรป เป็น ผักชีที่มีกลิ่นหอมรุนแรง หลาย ๆ คนอาจมองว่าฉุนก็เป็นได้ ด้วยกลิ่นอันรุนแรงทำให้หลาย ๆ คนไม่นิยมมากนัก ทำให้มักถูกนำไปใช้กับอาหารที่มีกลิ่นแรงอย่าง แกงอ่อม แกงเห็ด เป็นหลัก รวมไปถึงนำไปเป็นผักแกล้มก็อร่อยไม่แพ้ผักชนิดอื่น ๆ และแน่นอนว่าผักในวงศ์ตระกูลผักชี สิ่งที่มีเหมือน ๆ กันเลยก็คือ สรรพคุณทางยา ผักชีลาวนั้นช่วยในเรื่องบำรุงสายตา รวมไปถึงมีส่วนช่วยในเรื่องความดัน และสรรพคุณอื่น ๆ อีกเพียบ
ปลูกผักชีกินเอง ส่งผลดีอย่างไรต่อร่างกายบ้าง ?
ก่อนที่เราจะไปรู้ลึกกันถึง ปลูกผักชีกี่วันขึ้น เรายังขอแนะนำกับสรรพคุณต่าง ๆ ของผักชีกันเสียก่อน อย่างที่หลายคนรู้ว่าผักชีเป็นอีกหนึ่งสมุนไพรพื้นบ้าน ไม่ว่าจะกินส่วนไหนก็มีคุณค่าทางอาหารดี ๆ รออยู่ทั้งนั้น และนี่คือตัวอย่างของการทานผักชีอย่างเป็นประจำ (ในปริมาณที่เหมาะสม)
- มีคุณสมบัติต่อต้านอนุมูลอิสระ ผักชีมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระมากมาย ยกตัวอย่างเช่นquercetin , apigenin และ luteolin เป็นต้น ช่วยปกป้องเซลล์ไม่ให้เสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควรได้
- ต่อต้านอาการอักเสบ น้ำมันหอมระเหยของผักชี และ flavonoidsมีส่วนช่วยป้องกันอาการอักเสบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นไขข้ออักเสบ ลำไส้อักเสบ เป็นต้น
- ช่วยให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ การทานผักชีมีส่วนช่วยในเรื่องของระบบลมภายในช่องท้อง เนื่องจากมีสรรพคุณขับลม ทำให้ลดอาการจุดเสียง แน่นอนท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ ได้เป็นอย่างดี
- ความคุมน้ำตาลในเลือด ใครที่เป็นเบาหวาน เราแนะนำให้ ปลูกผักชี เอาไว้กินเองที่บ้าน เนื่องจากช่วยลดปริมาณน้ำตาลในเลือด พร้อมกับกระตุ้นให้ร่างกายผลิตสารอินซูลินออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ
- ป้องกันโรคเกี่ยวกับระบบประสาท โรคอัลไซเมอร์ และ โรคพาร์กิมสัน เป็น 2 โรคเกี่ยวกับประสาทที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี ซึ่งมีการวิจัยอย่างเป็นทางการแล้วว่า ผักชีมีส่วนช่วยป้องกันการเกิด 2 โรคนี้ได้อย่างเห็นผล
- คลายความกังวล ด้วยกลิ่นหอมและน้ำมันหอมระเหยภายในผักชี ส่งผลให้ผักชีมีฤทธิ์กล่อมประสาทอ่อน ๆ การทานผักชีเป็นอาหารมื้อเย็น จะช่วยคลายความกังวล ช่วยในเรื่องของการนอนหลับสำหรับผู้มีปัญหาเครียด
ผักชีจีน คืออะไร แตกต่างอย่างไรจากผักชีของไทย
เป็นที่ถกเถียงกันอยู่บ่อยครั้ง สำหรับประเด็นถึงความแตกต่างระหว่าง “ ผักชีไทย ” และ “ผักชีจีน” แม้จะเป็นผักที่อยู่ในสวนเดียวกัน บางคนยังเรียกชื่อของมันต่างกันออกไป สำหรับข้อสงสัยนี้เราขอมอบคำตอบสั้น ๆ กันตรงนี้เลยว่า “เป็นชนิดเดียวกัน” เนื่องจากที่จริงแล้วผักชีไม่ใช่ผักที่มีต้นกำเนิดมาจากเอเชีย จริง ๆ แล้วผักชนิดนี้มาจากโซนยุโรปตอนใต้ ดังนั้นไม่สามารถแบ่งแยกออกมาได้ว่าจะเป็น ผักชีไทย หรือ ผักชีจีน อย่างที่หลาย ๆ คนกำลังถกเถียงกัน ทั้งคู่ต่างเป็นสายพันธุ์เดียวกัน ปลูกผักชี ด้วยวิธีเหมือน ๆ กัน แต่จะให้มองหาสิ่งแตกต่างกันจริง ๆ คงต้องเป็น ผักชีลาว และ ผักชีฝรั่ง ถึงจะเป็นสายพันธุ์ที่แตกต่างกันจริง ๆ ที่มองเห็นได้ชัดเจนมากกว่า
ปลูกผักชี ครั้งเดียว ใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วนของต้น
ตามที่เนื้อหาข้างต้นของเราได้กล่าวเอาไว้ ว่าการ ปลูกผักชี สามารถทำให้คุณได้รับประโยชน์ได้ 100% ของผักชี เนื่องจากผักชนิดนี้ไม่มีส่วนไหนที่ต้องเขี่ยทิ้งเลยแม้แต่น้อย ทุกสิ่งสามารถนำมาเป็นอาหารได้ทั้งหมด แถมยังมีสรรพคุณที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับการปรับใช้งานของผู้ใช้ บทความนี้เราจะมาแนะนำว่าส่วนต่าง ๆ ของผักชี มีประโยชน์อย่างไร ทำอาหารอะไรได้บ้าง ดังเนื้อหาต่อจากนี้
1.ลำต้นและใบ
ส่วนของลำต้นและใบของ ผักชีมีกลิ่นหอม และรสชาติที่ออกเปรี้ยวเล็กน้อยอันเป็นเอกลักษณ์ แน่นอนว่าถูกนำไปใช้ในการโรยบนอาหารไทยหลาย ๆ อย่างชนิด ไม่ว่าจะเป็น ข้าวผัด , ต้มยำ , น้ำซุปต่าง ๆ เป็นต้น เป็นส่วนที่มีวิตามินอยู่หลายชนิดไม่ว่าจะเป็น A , C และ K รวมไปถึงแคลเซียม แมกนีเซียม และโพแทสเซียม พร้อมกับการมีกากใยที่ทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี นับว่าเป็นอีกหนึ่งในผักแต่งจานที่สามารถทานได้ แถมยังมีกลิ่นหอมที่ปล่อยออกมาจากน้ำมันหอมระเหย ช่วยยกระดับความน่าทานของอาหารให้มากขึ้นอีกด้วย
2.ราก
ส่วนรากหากคนไหนที่ไม่เห็นคุณค่าอาจตัดทิ้งไป แต่สำหรับผู้ที่มีพื้นฐานการทำอาหาร ต้องขอบอกเลยว่านี่คือขุมทรัพย์ดี ๆ นี่เอง เพราะรากของผักชี หากนำไปทุบจะมีกลิ่นหอมมาก มักใช้ประกอบอาหารที่ต้องการกลิ่นหอมติดปลายลิ้น ไม่ว่าจะเป็นน้ำซุปก๋วยเตี๋ยว น้ำซุปทุกรูปแบบ ไปจนถึงการนำไปผสมกับ กระเทียม พริกไทย กลายมาเป็น “สามเกลือ” เครื่องหอมยอดนิยมที่อยู่คู่กับครัวไทยมาช้านาน นำมาใช้กับเมนูไหนก็หอมอร่อย แถมยังสามารถใช้ วิธีปลูกผักชีจากราก อีกด้วย โดย วิธีปลูกผักชีในกระถาง ด้วยราก จะต้องตัดส่วนต้นให้เหลือเอาไว้พอสมควร จากนั้นนำรากไปแช่ในน้ำจนเริ่มแตกหน่อใหม่ แล้วก็นำลงดินได้เลย
3.เมล็ด
เม็ดผักชี มักจะถูกนำไปใช้เป็นเครื่องเทศเสียมากกว่า เนื่องจากมีรสชาติที่ไม่ได้เผ็ดร้อนอย่างที่หลาย ๆ คนคาดหวัง แม้ว่ารูปลักษณ์ของมันจะคล้ายคลึงกับพริกไทยขาวก็ตาม รสชาติไม่ได้โดดเด่นมากนัก มักใช้เป็นเครื่องเทศที่ช่วยชูกลิ่นหอมให้กับน้ำซุป ส่วนเมล็ดของผักชีมีส่วนช่วยในเรื่องของการลดน้ำตาลในเลือด ควบคุมระดับคอเลสเตอร์รอล ทำให้ระบบทางเดือนอาหารทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เป็นอีกหนึ่งเครื่องเทศที่ทุกครัวควรมีติดเอาไว้
ปลูกผักชีกี่วันขึ้น ? คำถามยอดฮิตของผู้ที่อยากเริ่มปลูกผักสวนครัวด้วยตนเอง
วิธีการปลูกผักชี นั้นค่อนข้างง่าย และมีหลากหลายวิธีด้วยกัน แต่สิ่งที่หลายคนอยากรู้ก่อนเริ่มต้นการปลูกคือ “ต้องปลูกกี่วัน” คำตอบโดยประมาณก็คือ 6-8 สัปดาห์ ถึงจะต้องเก็บเกี่ยว แต่ระยะเวลานั้นก็อาจแตกต่างกันออกไป เพราะการใช้ วิธีปลูกผักชีในแปลง และ วิธีปลูกผักชีแบบไฮโดรโปนิกส์ ก็จะทำให้มีระยะเวลาการปลูกที่แตกต่างกันออกไป แต่ระยะเวลาที่เรากล่าวไปข้างต้น ถือว่าเป็นระยะเวลาที่ประมาณการได้ใกล้เคียงได้มากที่สุด ไม่ว่าจะใช้วิธีการปลูกประเภทใดก็ตาม ซึ่งจะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า ใช้ระยะเวลาการปลูกเพียงไม่นานเท่านั้น ดังนั้นจะช้าอยู่ทำไม มาเรียนรู้วิธีการปลูกผักชีในเนื้อหาต่อจากนี้กันดีกว่า !!
แนะนำวิธี ปลูกผักชี ปลูกง่าย ๆ ไม่ต้องเป็นเกษตรกรมืออาชีพก็ปลูกได้
และในที่สุด !! เนื้อหาที่หลายคนรออยู่มากที่สุดก็มาถึงได้สักที เป็นการแนะนำ วิธีปลูกผักชี โดยเราได้รวบรวมวิธีการปลูกมาฝากอยู่หลายวิธี เหมาะกับทั้งเกษตรกรหน้าใหม่ และเกษตรกรมืออาชีพ โดยในหัวข้อแต่ละหัวข้อ เราจะแนะนำขั้นตอนการปลูกคร่าว ๆ พร้อมอุปกรณ์ที่ต้องเตรียม หากพร้อมแล้วไปชมกันเลย !!
– วิธีปลูกผักชีในตะกร้า
เริ่มต้นที่ วิธีการปลูกผักชี วิธีแรก เป็นการใช้ตะกร้าที่ไม่ใช่แล้วมาประยุกต์ ตาของตะกร้าจะต้องมีความกว้างพอสมควร เป็นหนึ่งในวิธีการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน อาจมองว่านี่คือการปลูกแบบ ไฮดรอโปนิกส์ก็ได้เช่นเดียวกัน
อุปกรณ์
- เมล็ดผักชี
- ตะกร้าที่มีช่องให้น้ำผ่านได้
- กระดาษทิชชู
- ภาชนะที่สามารถจัดเก็บน้ำได้
- สารละลายอาหารต่าง ๆ ของพืช
ขั้นตอน
- เพาะเมล็ดผักชีเตรียมเอาไว้จนเริ่มมีรากงอกออกมา
- นำต้นกล้าที่ได้ มา ปลูกผักชี ลงบนตะกร้า กระจายเมล็ดให้ทั่ว
- เติมน้ำลงในภาชนะสำหรับการจัดเก็บน้ำให้เต็ม ใส่สารละลายที่ต้องการลงไปด้วยหากจำเป็น
- นำตะกร้าที่มาขนาดพอดีกับภาชนะมาวาง ทั้งสองสิ่งต้องมีขนาดพอดีกัน ก้อนของตะกร้าต้องสัมผัสกับน้ำที่อยู่ในภาชนะอย่างพอดี
- นำทิชชูมาแปะเอาไว้บนเมล็ดบาง ๆ จากนั้นรดน้ำให้กระดาษเปียกชุ่ม
- เฝ้าสังเกตการณ์เติบโตของต้นกล้า หมั่นใส่สารละลายที่เป็นสารอาหารลงไปในทุก ๆ 15 วัน เมื่อถึงระยะเวลาประมาณ 6-7 สัปดาห์ คุณก็จะได้ผักชีงามสะพรั่งเอาไว้ทานแล้ว
– วิธีปลูกผักชีในแปลง
การ ปลูกผักชี ในแปลงหรือ วิธีปลูกผักชีในกระถาง จะเป็นวิธีสำหรับเหล่าเกษตรกรตัวจริง วัตถุประสงค์เพื่อการปลูกแล้วนำไปขายต่อ จำเป็นจะต้องปลูกในปริมาณมาก ๆ เพื่อให้มีผักชีมาขายให้คุ้มทุน สำหรับขั้นตอนการดูแลก็ไม่ยุ่งยาก แนะนำให้ปลูกช่วงหน้าฝนจะดีที่สุด
อุปกรณ์
- หญ้าแห้ง
- เม็ดผักชี
- จอบ เสียม
- ปุ๋ยประเภทต่าง ๆ
ขั้นตอน
- เตรียมดินสำหรับปลูกให้เรียบร้อย ผักชีค่อนข้างชอบดินที่ร่วมซุย
- เตรียมเม็ดที่จะนำไป ปลูกผักชี ด้วยการบดให้แตกออกเป็น 2 ซีก แล้วนำเมล็ดแช่น้ำประมาณ 3 ชั่วโมง
- นำเมล็ดไปผึ่งลม โดยในส่วนนี้ควรนำขี้เถ้าหรือไม่ก็ทรายโรย ๆ ด้วยจะดีที่สุด
- เมื่อเมล็ดเริ่มมีการงอกตัว ให้นำไปใส่ในแปลงหรือกระถางที่เตรียมเอาไว้ จากนั้นคลุมด้วยหญ้าแห้ง
- เมื่อทำตามขั้นตอนข้างต้นเสร็จแล้ว การดูแลก็ง่าย ๆ หมั่นรดน้ำเช้าเย็น ใส่ปุ๋ยหมักตามสูตรที่จำเป็น
– วิธี ปลูกผักชี โดยนำมาจากส่วนที่ทานเหลือ
วิธีปลูกผักชีจากราก เป็นอีกหนึ่งวิธีที่หลายคนเคยลองทำ เนื่องจากบางครั้งการสั่งอาหาร โดยเฉพาะข้าวผัด มักจะมีการนำต้นหอม ผักชี แนวมาให้ด้วย หรือจะเป็นผู้ที่ซื้อผักชีมาทำอาหาร แต่สวนโคนต้นและรากที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ ไม่ต้องทิ้ง เพราะสามารถนำมาปลูกได้อีก ด้วยขั้นตอนดังต่อไปนี้
อุปกรณ์
- ขวดน้ำ ( หรือภาชนะอะไรก็ได้ )
- อาหารของพืช (สารละลาย)
- รากของผักชี
ขั้นตอน
- นำรากของผักชีที่ต้อง ปลูกผักชี มาล้างทำความสะอาดสิ่งปนเปื้อนออกให้หมด
- แช่ลงในภาชนะที่มีน้ำอยู่ ให้ประมาณน้ำท่วมแค่ระดับรากเท่านั้น
- ถ้าอยากให้การเติบโตเร็วขึ้น ให้หมั่นเติมสารละลายที่เป็นอาหารของพืชลงไป
- เมื่อเริ่มแตกหน่อสามารถนำไปลงดินได้ หรือจะปลูกต่อในระบบไฮโดรโปนิกส์ก็ได้เช่นเดียวกัน
การปลูกผักชี ยากไหม มีขั้นตอนการดูแลอย่างไรบ้าง ?
- หมั่นกำจัดวัชพืช การ ปลูกผักชีจากเมล็ด ลงบนดิน สิ่งที่มักตามมาคือเหล่าวัชพืชที่พร้อมเข้ามาแย่งสารอาหารไปจากผักชีของคุณ ควรหมั่นถอนวัชพืชทั้งหลายทิ้งอย่างสม่ำเสมอ
- ระวังโรคที่อาจเกิดขึ้นมา โรคคือความเสี่ยงของการ ปลูกผักชี ไม่ว่าจะเป็น โรคเน่า เชื้อรา ใบไหม้ ซึ่งอาจมีต้นเหตุจากเหล่าแมลง การแก้ปัญหาต้องใช้สารตามอาหารที่เกิดขึ้น
- ความชุ่มชื้นของดินต้องเพียงพอ วิธีปลูกผักชีขาย ที่ดี จะต้องหมั่นดูแลความชุ่มชื้นของหน้าดิน เรื่องจากผักชีเป็นผักที่ชื่นชอบอากาศเย็น
- ถ้าใช้ วิธีปลูกผักชีในตะกร้า ต้องหมั่นเติมสารอาหารให้เพียงพอ เพราะสารอาหารในน้ำหากไม่เพียงพอต่อการเจริญเติบโต จะทำให้ผักชีหยุดโตในทันที ดังนั้นต้องหมั่นวัดค่าให้ดี
บทส่งท้าย
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับ วิธีปลูกผักชีขาย หรือจะนำเอาวิธีในบทความนี้ไป ปลูกผักชี ทานเองที่บ้านก็ได้เช่นเดียวกัน แม้ผักชีจะรับหน้าที่เป็นเพียงพระรองของอาหารทุกชนิด แต่ถ้าขาดผักชนิดนี้ไป ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอาหารจานนั้นคงดูจืดชืดไปในทันที รวมไปถึงประโยชน์ที่ผักชีมีต่อสุขภาพ การทานเป็นประจำอาจช่วยให้คุณมีอายุยืนยาวไปได้อีกหลายปี ถ้าตอนนี้คุณพร้อมแล้วสำหรับการปลูกผักชีทานเอง เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม จากนั้นทำตามขั้นตอนที่เรานำมาฝากได้เลย !!!!!