ผลมะเขือเทศสีแดงสดสุกคาต้นเป็นพวง มีหยดน้ำเกาะแสดงถึงความสดใหม่ ในสวนผักสวนครัวยามเช้า

มะเขือเทศ

Solanum lycopersicum

ชื่อสามัญ: มะเขือเทศ, Tomato, มะเขือส้ม, มะเขือเครือ

วงศ์: Solanaceae | ถิ่นกำเนิด: อเมริกาใต้ (เปรู, เม็กซิโก)

เป็นพิษต่อสัตว์เลี้ยง พืชผักสวนครัว

การรดน้ำ

รดน้ำปานกลาง (2-3 วันครั้ง)

แสงแดด

แสงแดดโดยตรง

ระดับความยาก

ปานกลาง - ต้องการการดูแลพอสมควร

อุณหภูมิ

18-28°C

ความสูง

70-200 ซม.

การเจริญเติบโต

เร็ว

📌

สรุปสั้น (TL;DR)

อ่าน 30 วินาที
  • 1 มะเขือเทศ เป็นพืชล้มลุกอุดมไปด้วยไลโคปีน สารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันมะเร็งและโรคหัวใจ
  • 2 ปลูกง่าย ทั้งในกระถางและแปลง ต้องการแดดจัด 6-8 ชม./วัน ดินระบายน้ำดี
  • 3 ปัญหาหลัก: ไม่ติดผล มักเกิดจากอุณหภูมิสูงเกิน 35°C หรือขาดธาตุอาหาร
  • 4 กินสุกดีกว่ากินดิบ เพราะความร้อนช่วยให้ร่างกายดูดซึมไลโคปีนได้ดีกว่า
  • 5 ปริมาณแนะนำ: กินมะเขือเทศ 1-2 ลูก/วัน หรือ 4-25 มก.ไลโคปีน/วัน

ข้อมูลทั่วไป

มะเขือเทศ (Tomato) คือพืชล้มลุกในวงศ์ Solanaceae มีถิ่นกำเนิดจากทวีปอเมริกาใต้ ผลมีสีแดงสดอุดมไปด้วยไลโคปีน (Lycopene) สารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันโรคมะเร็งและโรคหัวใจ นิยมปลูกเป็นผักสวนครัวและใช้ประกอบอาหารทั่วโลก

สิ่งที่คุณจะได้เรียนรู้จากบทความนี้

  • ข้อมูลพื้นฐานและพันธุ์มะเขือเทศที่นิยมปลูกในไทย
  • วิธีปลูกมะเขือเทศในกระถางและแปลงดินให้ลูกดก
  • การดูแล รดน้ำ ใส่ปุ๋ย และทำค้างอย่างถูกวิธี
  • ปัญหาที่พบบ่อย: ไม่ติดผล ใบเหลือง ผลแตก และวิธีแก้ไข
  • ประโยชน์ของไลโคปีนและวิธีกินมะเขือเทศให้ได้ประโยชน์สูงสุด

รู้จักมะเขือเทศ

มะเขือเทศ หรือ Tomato มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Solanum lycopersicum เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในแถบอเมริกาใต้ โดยเฉพาะประเทศเปรูและเม็กซิโก ปัจจุบันมีการปลูกแพร่หลายทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยที่นิยมปลูกทั้งเชิงพาณิชย์และในครัวเรือน

มะเขือเทศจัดเป็นพืชล้มลุกฤดูเดียว สูงได้ถึง 1-2 เมตร ลำต้นมีขนอ่อนปกคลุม ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก ดอกสีเหลืองออกเป็นช่อ ผลเมื่อสุกมีสีแดง ส้ม หรือเหลือง ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์

พันธุ์มะเขือเทศที่นิยมปลูกในไทย

พันธุ์ ลักษณะผล รสชาติ เหมาะสำหรับ
มะเขือเทศสีดา กลม สีแดงส้ม หวานอมเปรี้ยว ปลูกง่าย ทนร้อน
มะเขือเทศราชินี กลมเล็ก สีแดงเข้ม หวาน เนื้อแน่น กินสด สลัด
มะเขือเทศเชอรี่ ทรงรี ผลเล็ก หวานกรอบ ตกแต่งอาหาร
มะเขือเทศท้อ กลมใหญ่ สีส้ม หวานอมเปรี้ยว ส่งโรงงาน ห้าง
มะเขือเทศผลใหญ่ กลมแบน ผลโต เปรี้ยวน้อย ทำซอส แซนด์วิช

วิธีปลูกมะเขือเทศ

การปลูกมะเขือเทศไม่ยากอย่างที่คิด สามารถปลูกได้ทั้งในแปลงดินและกระถาง เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่อยากมีผักสวนครัวไว้กินเอง

สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม

มะเขือเทศเป็นพืชเมืองหนาว แต่สามารถปรับตัวปลูกในเมืองร้อนได้ โดยมีเงื่อนไขดังนี้:

  • อุณหภูมิ: 18-28 องศาเซลเซียส (ฤดูหนาวปลูกได้ดีที่สุด)
  • แสงแดด: ต้องการแดดเต็มวัน 6-8 ชั่วโมง
  • ดิน: ดินร่วนซุย ระบายน้ำดี ค่า pH 6.0-6.8
  • ความชื้น: ปานกลาง ไม่แฉะจนเกินไป

การเตรียมดินปลูก

ดินที่ดีคือรากฐานของมะเขือเทศที่แข็งแรง ให้ผสมดินปลูกดังนี้:

  • ดินร่วน 4 ส่วน
  • ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก 1 ส่วน
  • แกลบดำหรือขุยมะพร้าว 1 ส่วน

คลุกเคล้าให้เข้ากัน ตากดินทิ้งไว้ 7-15 วันก่อนปลูก เพื่อฆ่าเชื้อโรคในดิน

การเพาะเมล็ด

ขั้นตอนการเพาะกล้ามะเขือเทศ:

  1. เตรียมถาดเพาะหรือกระบะเพาะ ใส่วัสดุเพาะ
  2. หยอดเมล็ดลงหลุม ลึก 0.5-1 ซม. กลบดินบางๆ
  3. รดน้ำพอชุ่ม วางในที่ร่มรำไร
  4. เมล็ดจะงอกภายใน 7-10 วัน
  5. เมื่อมีใบจริง 2-3 ใบ (อายุ 20-30 วัน) พร้อมย้ายปลูก

การปลูกมะเขือเทศในกระถาง

สำหรับคนพื้นที่จำกัด การปลูกมะเขือเทศในกระถางเป็นทางเลือกที่ดี:

  • ขนาดกระถาง: เส้นผ่าศูนย์กลาง 12-16 นิ้ว ลึกอย่างน้อย 12 นิ้ว
  • รูระบายน้ำ: ต้องมีรูระบายน้ำที่ก้นกระถาง
  • ตำแหน่ง: วางในที่ที่ได้รับแดดเต็มวัน
  • พันธุ์แนะนำ: มะเขือเทศสีดา, มะเขือเทศเชอรี่

การดูแลมะเขือเทศ

การดูแลมะเขือเทศอย่างถูกวิธีจะช่วยให้ต้นแข็งแรงและให้ผลผลิตดี

การให้น้ำ

มะเขือเทศต้องการน้ำสม่ำเสมอ แต่ไม่ชอบน้ำขัง:

  • ระยะเริ่มปลูก – ติดผล: รดน้ำวันละ 1-2 ครั้ง เช้า-เย็น
  • ระยะผลเริ่มสุก: ลดการให้น้ำลง เพื่อป้องกันผลแตก
  • วิธีรด: รดที่โคนต้น หลีกเลี่ยงการรดบนใบ

ข้อควรระวัง

การให้น้ำมากเกินไปจะทำให้ดินแฉะ เกิดโรครากเน่า แต่ถ้าขาดน้ำแล้วรดน้ำกะทันหัน จะทำให้ผลมะเขือเทศแตกได้

การใส่ปุ๋ย

แบ่งการใส่ปุ๋ยตามระยะการเจริญเติบโต:

ระยะ สูตรปุ๋ย อัตรา
รองก้นหลุม ปุ๋ยคอก + 15-15-15 20 กรัม/หลุม
ระยะกล้า 15-15-15 100 กรัม/ต้น
ระยะออกดอก 20-20-20 100 กรัม/ต้น
ระยะติดผล 15-15-15 หรือ 13-13-21 100 กรัม/ต้น

การทำค้าง

มะเขือเทศพันธุ์ทอดยอดจำเป็นต้องทำค้างเพื่อพยุงลำต้น:

  • ทำค้างเมื่อต้นอายุ 8-10 วันหลังย้ายปลูก
  • ใช้ไม้ไผ่ปักทำกระโจม หรือใช้เชือกผูกกับราวลวด
  • ตัดแต่งกิ่งแขนงออก เหลือ 1-2 กิ่งต่อต้น

โรคมะเขือเทศและการแก้ไข

โรคมะเขือเทศที่พบบ่อยมีหลายชนิด หากรู้ทันและป้องกันได้จะช่วยลดความเสียหาย

1. โรคใบหงิกเหลือง

อาการ: ใบม้วนงอ ใบเหลือง ต้นแคระแกร็น ไม่ติดผล

สาเหตุ: เชื้อไวรัส มีแมลงหวี่ขาวเป็นพาหะ

วิธีแก้: กำจัดแมลงหวี่ขาวด้วยกับดักกาวเหลือง ถอนต้นที่เป็นโรคทิ้ง

2. โรคโคนเน่า รากเน่า

อาการ: โคนต้นเป็นสีน้ำตาล เน่า ต้นเหี่ยวเฉา

สาเหตุ: เชื้อรา เกิดจากดินแฉะ

วิธีแก้: ปรับปรุงการระบายน้ำ ใช้เชื้อไตรโคเดอร์มาป้องกัน

3. โรคผลแตก ก้นเน่า

อาการ: ก้นผลเป็นรอยช้ำ ยุบตัว เน่าดำ

สาเหตุ: ขาดธาตุแคลเซียม หรือให้น้ำไม่สม่ำเสมอ

วิธีแก้: เสริมปุ๋ยแคลเซียมโบรอน รดน้ำให้สม่ำเสมอ

ประโยชน์มะเขือเทศ

ประโยชน์มะเขือเทศมีมากมาย ด้วยสารอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระ

ไลโคปีน (Lycopene) สารมหัศจรรย์

ไลโคปีนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลัง พบมากในมะเขือเทศสีแดง มีประโยชน์ดังนี้:

  • ต้านมะเร็ง: ลดความเสี่ยงมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปอด
  • บำรุงหัวใจ: ลดคอเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL)
  • ปกป้องผิว: ป้องกันรังสี UV ลดริ้วรอย
  • บำรุงสายตา: ลดความเสี่ยงจอประสาทตาเสื่อม

วิธีกินมะเขือเทศให้ได้ไลโคปีนสูงสุด

  • กินสุกดีกว่ากินดิบ: ความร้อนช่วยปลดปล่อยไลโคปีน ทำให้ร่างกายดูดซึมได้ดีกว่า
  • กินกับไขมันดี: กินกับน้ำมันมะกอกหรืออะโวคาโดจะดูดซึมดีขึ้น
  • ซอสมะเขือเทศ: มีไลโคปีนสูงกว่ามะเขือเทศสดถึง 10 เท่า
  • ปริมาณแนะนำ: กินมะเขือเทศ 1-2 ลูก/วัน

สรุป

มะเขือเทศเป็นพืชผักที่คุ้มค่าแก่การปลูก ทั้งง่าย ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย โดยเฉพาะไลโคปีนที่ช่วยต้านมะเร็งและบำรุงหัวใจ การปลูกมะเขือเทศให้สำเร็จต้องใส่ใจเรื่องแสงแดด การให้น้ำ และการป้องกันโรค

❓ คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

+ มะเขือเทศมีดอกแต่ไม่ติดผล ต้องทำอย่างไร?

สาเหตุหลักคืออุณหภูมิสูงเกิน 35°C ทำให้ละอองเกสรเสียหาย แก้ไขโดย: 1) ปลูกในฤดูหนาวหรือใช้ตาข่ายพรางแสง 2) เลือกพันธุ์ทนร้อน เช่น พันธุ์สีดา 3) เสริมธาตุโบรอนและแคลเซียม 4) ช่วยผสมเกสรด้วยมือในช่วงเช้า

+ คนควรกินมะเขือเทศวันละกี่ลูก?

แนะนำกินมะเขือเทศวันละ 1-2 ลูก หรือประมาณ 100-200 กรัม เพื่อให้ได้ไลโคปีน 4-25 มก./วัน ผู้ที่มีปัญหากรดไหลย้อนควรบริโภคในปริมาณพอเหมาะ

+ มะเขือเทศมีประโยชน์อะไรบ้าง?

มะเขือเทศอุดมไปด้วยไลโคปีน สารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์หลายด้าน: 1) ลดความเสี่ยงมะเร็ง 2) บำรุงหัวใจ 3) ปกป้องผิวจากรังสี UV 4) บำรุงสายตา 5) เสริมภูมิคุ้มกัน

+ วิธีแก้มะเขือเทศใบหงิก ใบเหลือง ต้องทำอย่างไร?

อาการใบหงิกใบเหลืองมักเกิดจากโรคไวรัส มีแมลงหวี่ขาวเป็นพาหะ วิธีแก้: 1) กำจัดแมลงหวี่ขาวด้วยกับดักกาวเหลือง 2) ฉีดพ่นสารกำจัดแมลง 3) ถอนต้นที่เป็นโรครุนแรงทิ้ง

+ กินมะเขือเทศดิบหรือสุก ได้ไลโคปีนมากกว่า?

กินมะเขือเทศที่ผ่านความร้อน (สุก) จะได้ไลโคปีนมากกว่ากินดิบ เพราะความร้อนช่วยปลดปล่อยไลโคปีนจากผนังเซลล์ ควรกินร่วมกับไขมันดี เช่น น้ำมันมะกอก

คู่มือการดูแล

💧 การรดน้ำ

รดน้ำปานกลาง 2-3 วันครั้ง รดเมื่อดินด้านบนแห้ง ประมาณ 2-3 ซม.

☀️ แสงแดด

ต้องการแสงแดดโดยตรง วางกลางแจ้งหรือหน้าต่างที่ได้รับแสงแดดเต็มที่

🌱 ดินที่เหมาะสม

ดินร่วนซุย ระบายน้ำดี pH 6.0-6.8

🌡️ อุณหภูมิ

18-28°C

💨 ความชื้น

ความชื้นปานกลาง (40-60%) เหมาะกับพืชทั่วไป

🌾 การให้ปุ๋ย

ปุ๋ยสูตร 15-15-15, 20-20-20 ทุก 15-20 วัน

✂️ การตัดแต่ง

ตัดแต่งกิ่งแขนง เหลือ 1-2 กิ่ง/ต้น

🪴 การย้ายกระถาง

ไม่จำเป็น (พืชล้มลุกฤดูเดียว)

🌱 การขยายพันธุ์

เพาะเมล็ด (งอกใน 7-10 วัน), ปักชำกิ่ง

ปัญหาที่พบบ่อย

ไม่ติดผล / ดอกร่วง

สาเหตุ: อุณหภูมิสูงเกิน 35°C ทำให้ละอองเกสรเสียหาย หรือขาดธาตุโบรอน/แคลเซียม

วิธีแก้: ปลูกในฤดูหนาว ใช้ตาข่ายพรางแสง เสริมธาตุโบรอนและแคลเซียม

ใบหงิก ใบเหลือง

สาเหตุ: โรคไวรัสใบหงิกเหลือง มีแมลงหวี่ขาวเป็นพาหะ

วิธีแก้: กำจัดแมลงหวี่ขาวด้วยกับดักกาวเหลือง ถอนต้นที่เป็นโรคทิ้ง

ผลแตก ก้นเน่า

สาเหตุ: ขาดธาตุแคลเซียม หรือให้น้ำไม่สม่ำเสมอ

วิธีแก้: เสริมปุ๋ยแคลเซียมโบรอน รดน้ำให้สม่ำเสมอ

✨ คุณสมบัติพิเศษ

อุดมไปด้วยไลโคปีน สารต้านอนุมูลอิสระ, ผลกินได้ทั้งสดและปรุงอาหาร

ดอกและผล

🌸 ฤดูออกดอก:

ตลอดปี (เมื่อต้นโตเต็มที่)

🎨 สีดอก:

เหลือง

📏 ขนาดดอก:

เล็ก (< 2 ซม.)

🍎 ผล:

✅ มีผล - กินได้

ข้อมูลการซื้อขาย

💵 ราคาตลาด:

10-50 บาท/ต้น

💎 ความหายาก:

ทั่วไป

🛒 หาซื้อได้ที่:

ร้านต้นไม้ทั่วไป, ตลาดนัด, ออนไลน์

ตารางการดูแล

💧 รดน้ำ:

วันละ 1-2 ครั้ง เช้า-เย็น

🌾 ใส่ปุ๋ย:

ทุก 15-20 วัน

⏱️ อายุขัย:

4-5 เดือน

ประโยชน์

💊 ทางยา:

ต้านอนุมูลอิสระ, ลดความเสี่ยงมะเร็ง, บำรุงหัวใจ

🍽️ อาหาร:

กินสด, สลัด, ทำซอส, น้ำผลไม้

เครื่องมือ

เข้าสู่ระบบเพื่อบันทึกพืชนี้

เข้าสู่ระบบ

พืชที่เกี่ยวข้อง

ยังไม่มีพืชที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็นและคำถาม